กำหนดเป้าหมายคำหลักและคำรองที่เกี่ยวข้องกัน
การวิเคราะห์ Keyword คำหลักที่เหมาะสมเป็นกลยุทธ์ SEO ที่ดี หากเลือกใช้ Keyword ที่ถูกต้องและเขียนเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง จะทำให้ดึงดูดผู้เยี่ยมมายังเว็บไซต์ได้ Keyword หลักของหน้าเว็บไซต์ ควรจะเลือกเพียง 1 คำต่อหน้าเท่านั้น และควรจะเกี่ยวข้องกันเนื้อหา
ส่วน Keyword รอง ต้องเป็นคำที่สนับสนุนหัวข้อหลัก เช่น Keyword หลักคือ รถยนต์ Keyword รองคือ ประเภทของรถยนต์ Toyota เป็นต้น สามารถใส่ได้หลายคำต่อหน้า แต่พยายามทำให้เนื้อหาเป็นธรรมชาติ ใส่พยายามแทรก Keyword จนดูไม่เหมาะกับบทความครับ
เขียนเนื้อหาให้มีคุณภาพ (Unique Content)
หากต้องการให้ผู้เยี่ยมชมกลับมาที่เว็บไซต์อีก ควรจะต้องมีเนื้อหาที่มีคุณภาพ เป็นประโยชน์ต่อผู้เยี่ยมชม และอัลกอรึทึ่มของ Google จะชอบเนื้อหาที่ไม่ซ้ำใคร (Unique Content) เรื่องนี้ค่อนข้างสำคัญครับ เพราะส่วนใหญ่ที่จะชอบ Copy/Paste บทความซ้ำมาใช้กันครับ ทำให้ผู้เยี่ยมชมไม่ชอบและ ไม่ติดอันดับที่ดีบน Google ด้วยครับ
เพราะเนื้อหาของเราไม่มีวันหมดอายุ เขียนครั้งเดียวแต่มีคุณค่าในระยาว ซึ่งจะสามารถสร้างการเข้าชมได้เป็นระยะเวลานาน และยังมีโอกาสติดอันดับที่ดีบน Google ได้โดยไม่ต้องทำ Backlink เพิ่มเติมด้วยครับ ให้นึกถึงหัวข้อที่เขียนบทความแล้วสามารถอยู่ได้ระยะยาว โดยที่ไม่ต้องเข้ามาอัพเดทเป็นประจำครับ
ปรับแต่ง Title และ Description
ค่อนข้างสำคัญเพราะเป็นอันดับแรกที่ผู้เยี่ยมชมจะอ่านเห็นใน Google ไว้สำหรับเขียนอธิบายคร่าวๆ ว่าเว็บไซต์ของคุณเกี่ยวกับอะไร มีอะไรน่าสนใจ ที่แตกต่างจากเว็บไซต์อื่น และต้องตรวจสอบว่า Title และ Description ไม่ซ้ำกับหน้าอื่นๆ
- สำหรับ Title ควรจะอยู่ระหว่าง 30 ถึง 60 ตัวอักษร
- สำหรับ Description ควรจะไม่เกิน 160 ตัวอักษร
ทดลองสร้าง Meta Tag ได้ที่นี่เลยครับ Meta Tag Generator
ไม่ควรใช้ URLs ยาวจนเกินไป
ควรใช้ URL ที่เข้าใจง่ายว่าหน้าเว็บไซต์เกี่ยวข้องกับเรื่องอะไร และ Keyword แทรกเข้าไป ให้ดูเป็นธรรมชาติถ้าทำได้ ทำให้ URL อ่านได้ง่ายกระชับ ไม่แนะนำให้ใช้ URL ภาษาไทย เพราะ URL จะค่อนข้างยาว และอ่านไม่รู้เรื่อง บางที URL ภาษาไทยอาจจะโดนตัดประโยคด้วยครับ แนะนำให้ใช้เป็นภาษาอังกฤษจะดีกว่าครับ
ควรทำ SEO ด้วย Backlink จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ High Authority
เราควรเลือก Backlink จากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้และมีคุณภาพ เพราะมีผลอย่างมาก ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ในการช่วยจัดอันดับบน Google ไม่ควรทำ Backlink จากเว็บไซต์คุณภาพต่ำ อาจจะได้ผลในระยะสั้นแค่แปปๆ เดียว แต่ระยะยาวไม่เป็นผลดีครับ คุณอาจจะลองหาเว็บไซต์ Guest Post ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของคุณ เพื่อนำเสนอบทความที่น่าสนใจ ให้เว็บไซต์นั้นๆ หรือ อาจจะเป็น Infographic ที่น่าสนใจครับ เพื่อสร้าง Backlink ย้อนกลับมาที่เว็บไซต์ จะได้รับทั้ง Traffic ผู้เยี่ยมชม และ การจัดอันดับบน Google ครับ
ยกตัวอย่างของ USA Today: https://static.usatoday.com/submitcolumn/
ทำให้หน้าเว็บไซต์โหลดเร็ว
ควรจะปรับแต่งอะไรก็ได้ที่โหลดช้า ให้นำออกจากเว็บไซต์ไปถ้าไม่จำเป็น เพราะเวลาในการโหลดหน้าเว็บไซต์ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานเท่านั้น ยังส่งผลถึง SEO ด้วย เกี่ยวกับการจัดอันดับบน Google ถ้าหากเว็บไซต์โหลดช้า อาจจะลองดูพวก ขนาดของรูปภาพ หรือ ปลั๊กอินที่ไม่จำเป็น ลองลบออก อาจจะช่วยเพิ่มความเร็วของหน้าเว็บไซต์ได้ครับ หรือคุณลองตรวจสอบเว็บไซต์ของ Google ได้ครับ สำหรับตรวจสอบการใช้งาน HTTPS, Markups, Core Web Vitals, Broken Links และอื่นๆ ครับ
เครื่องมือของ Google สำหรับเช็คครับ : https://pagespeed.web.dev/
ใช้ลิงค์ภายในและภายนอกเว็บไซต์
ลิงค์ภายในจะนำผู้เยี่ยมชมไปยังหน้าอื่นๆ ของเว็บไซต์ ช่วยทำให้ผู้เยี่ยมชมอยู่กับเว็บไซต์เราได้นานขึ้น เพื่อค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมในหัวข้อที่กำลังสนใจ โดยไม่ต้องออกไปเว็บไซต์อื่น
ลิงค์ภายในอกจะนำผู้เยี่ยมชมไปยังเว็บไซต์อื่นๆ ที่เราแนะนำอาจจะเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและเนื้อหาที่มีความน่าเชื่อถือในหัวข้อที่คุณกำลังเขียนถึง อย่าลืมตรวจสอบลิงค์ภายนอกก่อน ว่ามีคุณภาพหรือไม่ ถ้าไม่มีคุณภาพจะส่งผลต่อเว็บไซต์ของเราครับ
ตรวจสอบไฟล์รูปภาพ หรือ Graphic ของเว็บไซต์
ขนาดรูปภาพและการจัดรูปแบบ ควรใช้ขนาดของรูปภาพและประเภทไฟล์ให้เหมาะกับผู้เยี่ยมชมมากที่สุด ไม่ควรมีรูปขนาดใหญ่จนเกินไป อาจจะทำให้เว็บไซต์โหลดช้าลง หรือ หากไม่รองรับไฟล์ รูปภาพอาจจะไม่โหลดเลย และ อย่าลืมทดสอบหน้าเว็บไซต์ของคุณ ผ่านทั้งทาง Desktop และ Mobile ว่าแสดงผลได้ถูกต้องหรือไม่ เพราะปัจจุบันผู้คนจะค้นหาใน Google ผ่านทาง Mobile มากกว่า Desktop ครับ
ตรวจสอบเว็บไซต์เป็นประจำ
การทำเป็นประจำ ช่วยให้มั่นใจว่าหน้าเว็บไซต์ของเรายังใช้งานได้ดี ไม่ว่าจะเป็น ลิงค์ที่อาจจะใช้งานไม่ได้ ลิงค์ภายใน-ภายนอก ปลายทางหน้าเว็บไซต์อาจจะหายไป หรือ เวลาในการโหลดช้าลง เพราะจะส่งผลต่อการจัดอันดับด้วยครับ
ศึกษาคู่แข่งของคุณ
วิเคราะห์เว็บไซต์ของคู่แข่ง เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสื่อเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพ สร้างแนวคิดใหม่สำหรับเนื้อหาของคุณ เพราะเป็นไปได้ที่คู่แข่ง กำลังสร้างเนื้อหาประเภทเดียวกัน และ กำหนดกลุ่มเป้าหมายเดียวกันครับ
สุดท้ายควรจะเรียนรู้เกี่ยวกับ SEO เป็นประจำ เพราะ Google’s Algorithm มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา บางเทคนิค บางวิธีอาจจะใช้ไม่ได้ผลแล้ว เราจำเป็นต้องปรับแต่งเว็บไซต์ ให้เข้ากับ Algorithm ครับ